วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

Love Actually


 

เป็นหนังรักที่น่ารักไปอีกแบบ โดยการว่างตัวละครทั้ง 8 ให้มีความสัมพันธ์กันอย่างลงตัว ในช่วงก่อนวันคริสมาส ว่าด้วย "ความจริงแห่งรัก" นั้นย่อมมีหลายรูปแบบ ทั้ง เพื่อนรักเพื่อน, พ่อรักลูก, ความรักแบบเด็ก, การสูญเสียคนรักแบบตายจาก, การสูญเสียคนรักแบบเสียให้คนอื่น, การแอบรัก, และ การเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ ซึ่งทุกคนที่มีความรักต่างต้องแก้ปัญหา และรับมือเรื่องความรักได้ต่างๆกันไป บางคนยอมเจ็บ เพื่อให้คนที่ตนรักมีความสุข ทำออกมาได้น่ารัก น่าติดตาม คิดว่าดูแล้วไม่น่าผิดหวังคร่า

มาวิเคราะห์ตัวละครกันดีกว่า แล้วจะเห็นว่าเรื่องนี้มีความเป็นตัวตนของคุณอยู่ในนั้นด้วย (เพราะหนังสร้างได้ครอบคลุมทุกความรู้สึกจิงๆ) ชื่อจากโปสเตอร์เลยนะคะ

* Hugh Grant แสดงเป็นนายกรัฐมนตรีของอังกิด ซึ่งได้แอบหลงรักเลขาสาว(Martine McCutcheon)ของ ตนเอง แต่เนื่องด้วยความที่มีตำแหน่งสูง จึงไม่กล้าทำอะไรเกินเลย เพราะกลัวจะเป็นข่าว จนกระทั่งเลขาของเขาเกือบถูกประธานาธิบดีของสหรัฐฉกตัวไป+ล่วงเกิน ฮิวจึงไม่ได้สามารถสานต่อความสัมพันธ์กับเทอต่อไปได้ พร้อมกับสั่งย้ายเทอให้พ้นจากตำแหน่งเลขาของเขา เพื่อทำให้ตัดใจจากเทอได้ แต่สุดท้ายด้วยใจที่โหยหา เข้าจึงไปตามเทอกลับมาจนได้

* Liam Neeson ชาย วัยกลางคนที่ต้องสูญเสียภรรยาจากการ "ตายจาก" เขาต้องเลี้ยงลูกชายที่ติดมาจากแม่ของเขาโดยลำพัง ตอนแรกนั้นเขาไม่สามรถทำใจได้เลย แต่เขาก็ต้องทำใจให้ได้ เพราะความเป็นห่วงลูกชายวัย 11 ขวบ เขาคิดว่าการเสียแม่ จะทำให้ลูกมีปัญหา เพราะลูกชายเก็บตัวผิดปกติ พอสืบสาวราวเรื่องก็ได้ความมาว่าลูกชายวัย 11 ขวบ เนี๋ย กำลังมีความรัก เมื่อรู้ดังนั้น เขาจึงทุ่มความรักทั้งหมดให้ลูกชายเพียงคนเดียว ให้ความดูแลเอาใจใส่ และเป็นเพื่อนคู่คิดให้ลูกอย่างที่สุด ให้ข้อคิดว่า เมื่อเราสูญเสียคนที่เรารักไป เราควรจะนึกถึงคนที่เราควรอยู่เพื่อเขาบ้าง

* Colin Firth ชาย หนุ่มวัยกลางคนอีกคนหนึ่งซึ่งรักเมียสาวของตนเองเป้นที่สุด แต่เขาต้องเสียใจเมื่อรุ้ว่า เมียพี่มีชู้!!! เขาจึงตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดของเขา กับอาชีพนักเขียน เมื่อกลับไปถึงได้ เพื่อนบ้านก็ได้จัดแจงหาแม่บ้านชาวต่างด้าวมาดูแล (เหมือน บ้านเราเลยต้องใช้แรงงานต่างด้าว) ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่นาน ทั้งคู่ก็รู้สึกดีต่อกัน แม้จะพูดคุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปสาวเจ้าเราก็ต้องกลับบ้าน(สัญญาหมด) โดยที่หยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นั้น โดยในใจแล้วก็ยังคงรักเทอ จนพยายามที่จะไปเรียนภาษาเพิ่มเติม เพื่อจะได้คุยกับเทอได้มากขึ้น.........แต่แล้วพอถึงวันคริสมาส วันที่ทุกๆคนมีความสุขกับคู่รัก ใจของเขาก็โหยหาเช่นกัน เขาได้ละทิ้งการฉลองกับครอบครัว เพื่อไปตามหาเจ้าสาวของเขา หารู้ไม๊ว่าสาวต่างด้าวเราก็ไปเรียนภาษาเพิ่มมาเหมือนกัน ข้อคิด ความรักทำให้เรายอมทำสิ่งต่างๆแม่จะยากเย็นก็ตาม* Laura Liney พนักงานสาวสวยที่แอบหลงัเพื่อนร่วมงานตั้งแต่ 30 วินาทีแรกที่เข้ามาทำงาน จนเวลาผ่านไป 2 ปี เทอก็ยังแอบรักอยู่ โดยไม่ได้บอกความจิง แต่เขา(เพื่อนร่วมงานที่เทอแอบรัก)ก็รู้ เทอมีข้อเสียที่เทอต้องรับโทรสับตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม ซึ่งคนที่โทรมาก็คือ พี่ชายของเทอซึ่งป่วยเป็นโรคจิต เทอดูแลพี่ชายมาตลอดหลังจากที่พ่อแม่ของเทอตายจากไปเมื่อตอนเด็กๆ ทำให้เทอรักพี่ชายคนนี้มาก จนกระทั่งก่อนวันคริสมาสเทอและคนที่เทอแอบชอบ(และเขาก็ชอบเทอ)ได้อยู่ด้วย กัน 2 ต่อ 2 เกือบจะมีอะไรกันแล้วเชียว แต่โทรสับเจ้ากรรมก็ดันดังขึ้นมาถึง 2 รอบ (คน ดูอารมณ์ค้าง) ซึ่งเทอก็ได้บอกกับคนรักของเทอถึงเหตุผลที่เทอต้องรับ ชายคนนั้นกลับถามเทอว่า แคไม่รับสักครั้ง พี่เทอคงไม่อาการแย่ลงหรอก(รับไปก็ไม่ได้ดีขึ้น ว่างั้น) แต่เทอก็ตัดสินใจรับโทรสับ สิ่งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของเทอและเขาจบลง เหลือแค่เพื่อนร่วมงาน เพราะเทอเลือกที่จะรักพี่ชายคนเดียวของเทอ ทั้งที่ป่วยด้วยความสมัครใจ

* Emma Thomson แสดงเป็นแม่บ้านซึ่งรักลูกๆและสามี(Alan Rickman) เท อรู้ระแคะระคายมาว่าสามีของเทอน่ะมีเลาขาสุดสวยคอยให้ท่าอยุ่ ซึ่งเทอก็ได้เตือนสามีไปแล้ว แต่ก็นะแบบว่าผู้ชายชอบของสดใหม่+อยู่กันมานานชักจะเบื่อ ในวันที่ไปซื้อของขวัญนั้น อลันพยายามซื้อสร้อยคอทองคำไปให้เลาขาสุดสวยเพื่อแลกทั้งตัวและหัวใจของเทอ ทั้งๆที่สิ่งที่ซื้อให้เมียตัวเองทุกปีๆคือผ้าพันคอ ในที่สุดอลันก็ไปแอบซื้อสร้อยคอมาสำเสร็จ แต่เก็บไม่ดีพอเมียเลยเห็นเข้า แต่ก็นึกว่าซื้อให้ตัวเองก็เลยดีใจว่าสามีจะเซอร์ไพร้ แต่ที่ไหนได้พอเอาเข้าจิงๆ เทอกลับเปิดออกมาเจอแผ่นซึดี(คล้ายๆ เพลง แฟนประสาอะไร ของน๊อตโตะ) แบบว่ากั๊ดอก พูดไม่อกบอกไม่ถูก จะด่าก็กระไรลูกอยู่ เลยหาข้ออ้างไปห้องนอน ไปแอบร้องไห้กับเพลงที่สามีที่ตัวเองรักซื้อให้ ด้วยความเข้มแข็งเทอบอกวามจิงกับสามีว่าเทอรู้ว่าสามีมีเมียน้อย แต่หลังจากนั้นเทอก็ทำเหมือนทุกอย่างปกติ เพื่อลูกๆของเทอเอง

* Keira Knightley หญิง สาวที่เข้าพิธีแต่งงานกับเพื่อนชายซึ่งมีเพื่อนสนิทอีกคนนึง เพื่อนสนิทคนนั้นได้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ค่อยถ่ายวิดีโอตั้งแต่งานแต่งจนฮันนีมูนเสร็จ แต่วีดีโอนั้นเก็บไว้ดูเองนะ จนวันหนึ่งเคียร่าก็มาขอดูวีดีโอนั้น เพราะว่าของอันที่เทอมีคนถ่ายถ่ายออกมาไม่ดี เพื่อนชายก็ตอบปัดไปว่าทำหายบ้า หาไม่เจอบ้าง จนกระทั่งเคียร่ามาหาเองถึงบ้านเลย และก็หาเจออย่างง่ายดายและก็เอามาเปิดดู ภาพที่เห็นสาวมาเลยที่เดียว แต่ดูๆไปทั้งม้วนนั้นถ่ายแต่เทอคนเดียว! เป็นเพราะว่าเค้ารักเทอนั่นเอง แต่ไม่กล้าบอก จนถึงวินาทีนี้ก็ยังไม่บอกความในใจ เพราะว่าเป็นแฟนของเพื่อน พอถึงวันคริสมาส เขาได้บอกความในใจกับเทอโดยผ่านภาษาเขียนอย่างง่ายๆ แต่ก็บอกความในใจของเขาทั้งหมด และเขาก็จากไป เคียร่าวิ่งมาจูบ 1 ที ละก็กลับเข้าบ้านไป เขาพูดกับตัวเองว่า "Enough"(พอ แล้ว เพียงพอแล้ว) ให้ข้อคิดว่า เราอาจจะไม่ได้ความรักจากใครคนนั้น แต่การที่เราได้บอกความในใจของตัวเองไปหรือได้อาไรเป็นการตอบแทนเพียงเล็ก น้อย นั่นก็ "เพียงพอแล้ว"

* Bill Nighy อดีต ร๊อคเกอร์หนุ่มที่เสียอนาคตเพราะยาเสพติด ได้ร่วมทำอัลบัมใหม่กับโปรดิวเซอร์อ้วนตุ๊ตะที่คอยดูแลเขามาตลอด ซึ่งเพลงในอัลบัมใหม่นี้ก็จะเกี่ยวกับคริสมาส ซึ่งเอาเนื้อเพลงเก่าๆมาดัดแปลง ซึ่งในเรื่องนี้ขอบอกว่า เพลงฟังแล้วตลกมากกกกกกกกก เห่ยได้ใจจิงๆ คิดดูได้ฟังตั้งแต่เริ่มเรื่องจนจบเรื่องเลย ฟังจนร้องได้เลยอ่านะ แต่กวนตีนโคตรๆ ประมาณว่าไปออกรายการทีวีตอนท้ายบอกเด็กๆว่า "เด็กๆฟังลุงนะ อย่าเอาเงินไปซื้อยาเสพติดเด็ดขาด เพราะถ้าเป็นนักร้องดังแล้วจะได้มันมาอย่างฟรีๆ" คิดได้เนาะ ว่ากันต่อเมื่อลงแกไปออกรายการไหนๆก็จะคอยว่าคอยแขวะ โปรดิวเซอร์อ้วนๆอยุ่เสมอ แต่น้าตุ้ยเราก็ไม่เคยจากไปไหนแม้ว่าลุงร๊อกเกอร์ของเราจะว่าจะด่าอย่างไร จนกระทั่งวันคริสมาสได้มาถึงพร้อมการประกาศรางวัลเพลงที่ได้อันดบ 1 ในชาร์ตเพลง ซึ่งเพลงนั้นก็คือเพลงของลุงแกนั่นเอง(ชนะวงบลู ทำไปได้) พอประกาศปุ๊ปเอลตันจอนก็โทรมาชวนไปร่วมฉลองงานเลี้ยง ลุง แกก็ไปได้แปปเดียว แล้วก็กลับมาหาน้าอ้วนของเรา ลุงแกบอกว่าไม่มีใครรักแกจิงหรอก มีแต่น้าอ้วนคนเดียวที่ดูแลแกมาตลอดตั้งแต่ตกอับจนมาถึงวันนี้

* มิสเตอร์บีน คน นี้เป็นตัวประกอบชัดๆ แต่เอาขึ้นโปสเตอร์ไว้ขาย แสดงได้กวนตีนได้ใจ เหมือนเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยให้สถานการณ์ต่างๆเป็นไปด้วยดี เข้ามา 2 ฉากเท่านั้น เป้นคนขายสร้อยคอทองคำอ่านะ

อีกอย่างที่ทำให้ชอบเรื่องนี้คือ หนังมันจะบอกว่า เมื่อ เวลาเราทุกข์ คิดว่าความรักไม่มีแล้วในโลก ให้เรานึกถึงสนามบิน เพราะที่นั่นทุกคนจะโผ่เข้ากอดกันด้วยความรักความคิดถึงทั้งนั้น เป็นภาพที่น่าดูจิงๆค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น