วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

นาคปรก


โอ๊ย อุตส่าห์รอมาตั้งสามปี ทำได้แค่นี้เองหรอ เหอๆ เสียใจคร่าาาา ไม่เข้าใจว่าหนังต้องการสื่ออะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆเราว่าถ้าต้องการทำหนังมาตั้งใจจะสั่งสอนประชาชนเนี๋ยก็ทำไปเลยตรงๆก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องอ้อมค้อมหรือหักมุมเลยกันเลย หักมุมไปก็ยิ่งทำให้งงไปอีกว่าสรุปหนังต้องการสื่ออะไรกันแน่

ตัวเนื้อเรื่องไม่เหมือนไม่ในหนังตัวอย่างที่ได้ดูเท่าไร เหมือนทำหนังตัวอย่างเพื่อดึงดูดคนเข้าชมทั่วนั้น ดูเป็นการหลอกลวงประชาชนมากๆ ไม่ชอบเลยจิงๆ ถ้าตามหนังตัวอย่างก็จะเห็นว่า เป็นโจรที่เอาเงินที่ขโมยมาซ่อนไว้ที่พื้นโบสถ์ แล้วบังคับพระให้บวชให้เพื่อจะได้เนียนๆเข้าไปขุดหาเงินได้ โดยมีพระหลวงตาคอยช่วยสั่งสอน แต่พอไปดูหนังจิงๆแล้ว คนที่ชั่วกลับเป็นพระหลวงตามากกว่า เราว่านี่เป็นสาเหตุที่หนังถูกแบนในตอนแรก เรื่องไอ้ตอนสามคนหลักไปบวชมันยังไม่ชั่วเท่าที่หลวงตาทำเลย หลวงตาทั้งรับสัก จับเนื้อต้องตัวผู้หญิง พกเงิน ขโมยพระ ขโมยเงิน เลวจิงๆ แต่มารู้ทีหลังก็ไม่ได้ทำให้ประทับใจหนังเรื่องนี้มากขึ้นซักเท่าไร กลับทำให้รู้สึกแย่ลงไปอีก คนดูก็อุตส่าห์ไปดูอย่างเยอะ พอหนังจบเม่งเงียบงันกันทั้งโรง ไม่เข้าใจว่าได้ดูอะไรไป

อารมณที่ดูหนังเรื่องนี้ก็แทบจะไม่มีอารมณ์เลย หนังเอื่อยๆเรื่อยๆ เน้นความเถื่อนของคนเป็นหลัก มีแอบซึ้งอยุ่นิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้เป็นการบิ้วอารมณ์ให้ซึ้ง อย่างเช่นฉากฟังเทศน์ รู้สึกว่าหนังต้องการยัดเยียดอารมณ์เศร้าให้คนดูมากเกินไป คือ ก็มันทำให้คนมีอารมณ์ร่วมไม่ได้ คนดูฟังแล้วไม่ร้อง แม่ง แต่ในหนังอีป้าๆยายๆทั้งหลายร้องไห้กันแทบน้ำตาจะท่วมวัดกันอยู่ละ ก็เลย fail

สรุปเลยละกันว่า ไม่ต้องไปดูให้เสียตัง หนังไทยที่ดูได้มีแค่หนังของ GTH เท่านั้นแหละ ต่อไปนี้จะเลิกดูหนังไทยของค่ายอื่นอย่างเด็ดขาด สัญญา ฮ่าๆ

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

บ้านฉันตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้)



หนังไทย(โดย GTH)ทำได้ประทับใจอีกแล้ว ชอบมากๆเลยเรื่องนี้ การันตีก่อนเลยว่าไปดูไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจไปดูหนังตลก ก็จะได้ตลกกันทั้งเรื่อง หรือจะไปดูหนังครอบครัว รับรองว่าจะรู้สึกอบอุ่น อบอวนไปด้วยความรักความห่วงใยในครอบครัวอย่างแน่นอน

ปล เรื่องนี้หอบสังขารจากบ้านที่ลำปางมาดูก่อนขึ้นเครื่องไปเที่ยวทะเล(หลังจากที่โดนประกาศเลื่อนสอบ) แต่ดูแล้วไม่ผิดหวังที่อุตส่าห์หอบสังขารมาเชียงใหม่ตั้งแต่เที่ยง เพื่อจะมาขึ้จเครื่องตอนสามทุ่ม

เนื้อเรื่องคงไม่ต้องเล่าแล้วมั้ง เพราะว่าดูจากตัวอย่างหนังก็พอจะเดาเนื้อเรื่องได้หมดแล้ว เรื่องมันก็ดำเนินตามนั้นแหละไม่พลิกแพลงแต่อย่างใด แต่การดำเนินเรื่อง ฉากต่างๆ อารมณฺ์ของตัวละครเนี๋ยทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว ทำให้ดูไปยิ้มไปอย่างมีความสุขตลอดเรื่อง

แต่ที่อยากเน้นๆมีสองเรื่อง คือ เรื่องนี้หนึ่ง เรื่องนี้เนี๋ยตลกโคตรๆ ขนาดเราเป็นคนเส้นลึกละนะ เพราะเอาพวกนักแสดงตลกมาแสดงด้วยเยอะ พวกนี้เนี๋ย รับส่งมุขกันโคตรเปะ ฮากันขี้แตกขี้แตน แต่ดาราคนอื่นที่ไม่ใช่ตลกอาจจะรับส่งมุขผิดจังหวะไปหน่อย ดูแล้วไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเท่าไร แต่ก็พอไปได้(บ้าง) อยากจะยกตัวอย่างมุขให้ฟังนะ แต่กลัวคนที่ยังไม่ได้ดูไปดูแล้วจะไม่ขำ โดยเฉพาะมุขพูดไม่ชัดตอนต้นเรื่องเนี๋ยขำกันกระจายทั้งโรง และยังมีมุขอ่านSMS ภาษาอังกิดเขียนเป็นไทยอีก (เช่น sawadee, rak mak  mak เป็นต้น) เรื่องจะฮาหรือแทบจะดำเนินไปไม่ได้เลยถ้าไม่มี จตุรงค์ ม๊กจ๊ก แสดงได้เก่งมากทั้งตอนตลกและตอนดราม่า ขอชื่นชมๆ

ส่วนอีกเรื่อง คือ ทำคติสอนใจและเป็นหนังครอบครัวที่ดีมาก ทุกคนรักใคร่กลมเกลียวกันดี น่ารักกันทั้งบ้าน โดบหนังต้องการสื่อเกี่ยวกับความรักของพ่อที่มีต่อลูกๆ ว่า พ่อรักแต่บางครั้งอาจไม่ได้แสดงออก หรือบางครั้งแสดงออกแต่ลูกไม่สามารถตีความและรับรู้ความรักที่พ่อมีให้ได้ เพราะลูกอาจจะยังเด็กเกินไป หรือมีความคิดแบบเด็กๆ ทำให้ไม่เข้าใจพ่อ แต่ถ้าเราลองนึกดูดีๆแล้ว ก็จะรู้ว่า พ่อได้แสดงความรักต่อเรามากมาย แต่เราเองกลับเป็นฝ่ายที่มองไม่เห็นมัน นอกจากจะสอนเรื่องนี้แล้ว ยังเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงผลของการที่ผู้ใหญ่ต้องการให้เด็กโตมามีอาชีพโน่นนี่นั่นได้อย่างดี ในเรื่องนี้ทำให้เห็นถึงความพยายามและความกดดันของเด็กคนนึงซึ่งต้องการทำตามที่พ่ออยากให้เป็นให้ได้ เพื่อหวังจะให้ได้รับความรักจากท่านบ้าง ถ้าสรุปเรื่องทั้งหมดแล้ว คือ ทุกปัญหาแก้ไขได้ ถ้าเราหันหน้ามาปรับความเข้าใจกัน มาคุยกันให้มากขึ้น เราก็จะได้รับรู้ความรู้สึกของคนในครอบครัวมากขึ้นด้วย คนดูเลยสนองความซึ้งและความตลกไปด้วยการหัวเราะทั้งน้ำตากันเลยทีเดียว

แต่!!!! เรื่องนี้ขอบอกว่าน่าจะทำให้เด็กที่เป็นนักแสดงแก่แดดขึ้นอย่างน้อยสามคน คนที่เป็นมากสุดคงเป็นคนน้องแซลม่อน น้องสาวสุดน่ารักและกวนตีนของพระเอกเรา น้องแสดงได้น่ารักและตอแหลได้ใจพี่ไปเลยค่ะคุณน้อง ส่วนพระเอกน้องล้อต๊อกก็แสดงได้ดีมากอีกคน น้องแสดงฉากอารมณ์ได้ดีมาก หน้าตาน่ารักด้วย อิอิ .... ส่วนคุณหมอพอลล่าเนี๋ย (ถ้าเป็นศิษย์ มช คงโดน อ.สุปรียา ด่าแน่ๆ เพราะไม่ได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาเลย อ บอกว่า เสียดายเงินหลวง) เรื่องนี้ชักจะมีริ้วรอยตีนกา ถุงใต้ตาชักใหญ่ละนะคะ สงสัยจะเริ่มแก่ละมั้ง

ส่วนเราดูเรื่องนี้แล้วอยากเป็นหมอskinใจจะขาด ไม่ใช่เพราะงานสบายได้ตังเยอะหรอก แต่เพราะ ได้กดสิว หนองแตกกระจุยกระจาตะหาก ฮ่าๆๆ เห็นแล้วสะใจจิงจิ๊งงงงง